การแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (FX หรือ Forex) เป็นรากฐานที่สำคัญของธุรกรรมของการลงทุนระหว่างประเทศทั้งหมดและเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก ธุรกรรม FX ส่วนใหญ่จะไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการค้าระหว่างประเทศและมีลักษณะเป็นการเก็งกำไร แม้ว่าธุรกรรม FX ที่เกี่ยวข้องกับการค้าจะยังคงมีบทบาทสำคัญสำหรับธุรกรรมที่เกี่ยวข้องกับการค้าทุกรายการในตลาด FX โดยเกือบ 9 เท่าเป็นการเก็งกำไร ทั้งนี้ตลาด FX ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่องและการเติบโตเกิดจากสภาพคล่องและระบบแบบเครือข่าย
Spot FX มีความแตกต่างจากตราสารหุ้นและสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เนื่องจากไม่มีการซื้อขายจริงในตลาดแลกเปลี่ยน ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีด้านอิเล็กทรอนิกส์และโทรคมนาคมของธนาคารและโบรคเกอร์ ที่สามารถเข้าถึงระบบที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถโอนข้อมูลและเงินทุนได้เกือบจะทันทีทั่วโลก ด้วยการซื้อขายผ่านเครือข่ายนี้ ราคาฟอเร็กซ์มีข้อได้เปรียบที่สำคัญกว่าผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่นๆ ที่จำกัดเฉพาะไทม์โซนนั้นๆ และมีความผันผวนสูง
ธนาคารและโบรกเกอร์ที่ใช้ระบบ screen-based ในการวิเคราะห์ จัดการ และเทรดราคาทั้งสองทาง แพลตฟอร์มเหล่านี้ได้รับประกันระดับความโปร่งใสที่สูงมากขึ้น และการเข้าถึงข้อมูลราคาได้ทันทีทุกที่ทั่วโลก
การเทรดฟอเร็กซ์
สกุลเงินมักจะเป็นราคาของคู่สกุลเงินเสมอ หมายความว่าในการเทรดทั้งหมดต้องมีการซื้อสกุลเงินหนึ่งและการขายอีกสกุลเงิน วัตถุประสงค์ของการเทรด FX คือการแลกเปลี่ยนสกุลเงินหนึ่งให้เป็นอีกสกุลเงินหนึ่ง เพื่อคาดการณ์ว่าราคาตลาดจะเปลี่ยนแปลง ดังนั้นสกุลเงินที่ซื้อจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินที่ขาย
เมื่อนักลงทุนซื้อสกุลเงินที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นภายหลัง จึงจำเป็นที่ต้องขายสกุลเงินนั้นคืนเพื่อล็อคผลกำไร ออเดอร์เปิดหรือสถานะเปิดเกิดขึ้นเมื่อเทรดเดอร์ซื้อหรือขายคู่สกุลเงินนั้นๆ ไม่ได้ทำการซื้อหรือขายในมูลค่าที่เท่ากับตอนปิดออเดอร์
ราคาอ้างอิง
FX quotes ประกอบไปด้วยราคา 'bid' และราคา 'ask' ซึ่งราคา 'Bid' คือราคาที่ Market maker พร้อมที่จะซื้อ (ลูกค้าเป็นผู้ขาย) ขณะที่ราคา 'ask' คือราคาที่ Market maker ยินยอมที่จะขาย (ลูกค้าเป็นผู้ซื้อ) ในคู่สกุลเงินนั้นๆ ความต่างระหว่างราคาของ 'bid' และ 'ask' เรียกว่า สเปรด
ในตลาดค้าส่ง คู่สกุลเงินถูกอ้างอิงโดยทศนิยม 4 ตำแหน่ง ซึ่งตำแหน่งท้ายสุดจะเรียกว่า 'pip' ในฟอเร็กซ์ก็เหมือนกับตราสารอื่นๆ ที่มีต้นทุนทันทีเมื่อเปิดออเดอร์ ยกตัวอย่างเช่น EUR/USD อาจจะ bid ที่ 1.3150 และ ask ที่ 1.3153 ซึ่งสเปรดมี 3 pip ที่แสดงราคา ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามสภาพคล่องของเงินในตลาด
ด้วยการอ้างอิงทั้งราคา Bid และ Ask แบบเรียลไทม์ของ ICM ทำให้เทรดเดอร์มั่นใจได้ว่า จะได้รับราคาที่ยุติธรรมในทุกธุรกรรม
มาร์จิ้นคืออะไร
มาร์จิน (Margin) คือการนำเงินจำนวนหนึ่งไปค้ำประกันเพื่อใช้เปิดการซื้อหรือขายสัญญาสกุลเงิน โลหะมีค่าหรือตราสารอนุพันธ์ ซึ่งมาร์จิ้นนี้จะช่วยให้นักลงทุนสามารถเทรดด้วยเงินที่มีมูลค่าสูงด้วยเงินฝากเพียงเล็กน้อย และด้วยการวางมาร์จิ้นเพียงเล็กน้อยนี้เองก็เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ Spot FX มีความน่าสนใจต่อนักลงทุนรายย่อย
ธนาคารกลาง
ธนาคารกลางส่วนใหญ่มีศักยภาพในการควบคุมปริมาณเงินและอัตราดอกเบี้ยในประเทศนั้นๆ โดยธนาคารเข้าแทรกแซงเพื่อควบคุมความผันผวนของตลาดสำหรับสกุลเงินที่มีการเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ โดยใช้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ หรือใช้อัตราดอกเบี้ยที่มีอิทธิพลผ่านการดำเนินงานในตลาดการเงิน
ธนาคารพาณิชย์
ธนาคารพาณิชย์ คือผู้ดูแลสภาพคล่องที่อ้างอิงราคา Spot FX ทั้ง 2 ทาง ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องเพื่อควบคุมอุปสงค์และอุปทานของสกุลเงินให้สมดุลกัน ในตลาดการซื้อขายสกุลเงินอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างธนาคารคือราคาของการซื้อขายรายใหญ่ และอัตราแลกเปลี่ยนเชิงพาณิชย์คือราคาซื้อขายรายย่อย
โบรกเกอร์
โบรกเกอร์ คือคนกลางที่นำราคาตลาดที่ได้รับมาจากธนาคารเสนอผ่านทางเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์หรือโทรคมนาคมให้แก่นักลงทุน ซึ่งอัตรานี้ไม่เพียงเป็นอินดิเคเตอร์ แต่ยังเป็นราคาที่นักลงทุนพร้อมจะซื้อขายได้ โดยทั่วไปจะเป็นราคาที่ได้รับการยอมรับในตลาด
บริษัท
บริษัททั่วไปจะเข้าร่วมการซื้อขายสกุลเงินเพื่อประกันความเสี่ยงจากเงินตราต่างประเทศ เพื่อลดความเสี่ยงให้ได้มากที่สุด ทำให้หลายบริษัทส่งเสริมนโยบายและกระตือรือร้นที่จะซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงิน โดยเฉพาะบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่บางแห่งถึงขั้นต้องมีห้องซื้อขายเป็นของตนเอง และมีฝ่ายควบคุมดูแลการเงินและการให้เครดิต แต่ส่วนใหญ่ก็ยังดำเนินการซื้อขายผ่านโบรกเกอร์เป็นหลัก
กองทุนรวม
นักลงทุนรายย่อยจำนวนมากซื้อหุ้นในกองทุนรวม ซึ่งบางกองทุนมีสินทรัพย์มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ และได้รับการจัดการโดยผู้จัดการกองทุนหลายคน กลยุทธ์ในการซื้อขายและนโยบายโดยรวมของกองทุนนั้นขึ้นอยู่กับสภาพคล่อง ผู้จัดการกองทุนเหล่านี้จะลงทุนด้วยสัดส่วนของเงินในกองทุนในตลาดซื้อขายเงินตราต่างประเทศ ในบางกรณีขนาดของธุรกรรมและประมาณเงินหมุนเวียนมีมากกว่าธนาคารบางแห่ง
สถาบันการเงินของรัฐ
สถาบันการเงินของรัฐไม่ได้มีส่วนร่วมในตลาดมากนัก อย่างไรก็ตามในบางสถานการณ์ สถาบันเหล่านี้สามารถอัดฉีดเงินจำนวนมากเข้าสู่ตลาดการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศได้ กรณีนี้มักเกิดขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนาซึ่งธุรกิจการนำเข้าส่งออกถูกผูกขาดโดยรัฐบาล
นักลงทุนรายย่อย
นักลงทุนรายย่อยมีการทำธุรกรรมเข้ามามากขึ้น จำนวนการเทรดสกุลเงินและตลาดฟิวเจอร์เติบโตขึ้น โดยการฝากหลักประกันไปยังบัญชีส่วนบุคคลกับโบรกเกอร์ เช่น ICM โดยนักลงทุนเหล่านี้กำลังมีความสำคัญและมีอิทธิพลในระยะสั้น ต่อการเคลื่อนไหวของอัตราแลกเปลี่ยนในช่วงที่ตลาดมีสภาพคล่องต่ำ
สิ่งที่นักลงทุนทุกคนควรรู้
เนื่องจากการเป็นตลาดขนาดใหญ่ มีสภาพคล่องสูง และแนวโน้มที่แข็งแกร่งของสกุลเงิน ตลาด Spot FX จึงเป็นหนึ่งในตลาดที่ได้รับความนิยมที่สุดในการเก็งกำไร อีกมุมหนึ่งที่น่าสนใจของการเทรดสกุลเงินคือ ระดับเลเวอเรจที่สูง ในบางกรณี ICM อนุญาตให้สถานะมีค่าเลเวอเรจสูงถึง 1:500 แต่หากไม่มีการจัดการความเสียงที่เหมาะสม เลเวอเรจที่สูงขนาดนี้ อาจจะนำไปสู่ความผันผวนรุนแรงทั้งกำไรและขาดทุนได้
ด้วยความรู้ที่แม้แต่นักลงทุนที่เชี่ยวชาญก็ยังขาดทุนได้ในบางครั้ง ดังนั้นการเก็งกำไรในตลาดฟอเร็กซ์จึงควรลงทุนด้วยเงินทุนที่สามารถสูญเสียได้ และไม่ส่งผลกระทบกับการเงินส่วนตัว